ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้น วงศ์เดียวกับชมพูพันธุ์ทิพย์ สูงประมาณ 4-10 เมตร
จากวิกีพีเดียบอกว่า เจ้าต้นศรีตรังนี้มี 2 ชนิดด้วยกัน คือ
ชนิดที่มีช่อดอกที่ปลายยอด กับชนิดที่มีช่อดอกออกตามซอกใบตามกิ่งก้านและปลายยอด
ซึ่งเป็นชนิดที่นิยมปลูกกันในบ้านเรา ทรงพุ่มค่อนข้างโปร่ง
ถ้าจะปลูกไว้เป็นร่มเงาอาจจะพึ่งพาอะไรไม่ได้มากค่ะ เพราะเวลาที่เขาออกดอก
เขาจะทิ้งใบทั้งต้นเหลือแต่ดอกไว้อย่างเดียว
ลักษณะใบ
เป็นใบเรียวคล้ายขนนก ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว
ใบเล็กละเอียดคล้ายใบต้นอินนทรี
ลักษณะดอก
ดอกสีม่วงอ่อน
รูปร่างคล้ายปากแตร มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยแต่ก็ไม่เคยได้กลิ่นเหมือนกัน
มักจะออกดอกเป็นช่อ มองไกลๆ เหมือนกระจุกสีม่วงกระจายอยู่ตามกิ่งและซอกใบโดยเฉพาะส่วนยอด
ดอกมีลักษณะเป็นหลอดสีม่วงเข้ม ปลายแยกเป็น 5 แฉก จะได้เห็นดอกสีม่วงอ่อนๆ
ประมาณเดือนมกราคม-มีนาคมแต่ต้นจะผลัดใบเหลือไว้แต่ดอกสีม่วงอ่อนบนต้นเป็นภาพที่สวยหวานมากๆ
แต่พอล่วงเข้าเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดอกก็จะร่วงเหลือเป็นผลแก่
การดูแลรักษา
เป็นไม้ปลูกง่าย สามารถอยู่ได้กับดินทุกชนิด ชอบแดดจัด กลางแจ้ง
แต่ก็ต้องการน้ำและความชื้นพอสมควร การเพาะขยายพันธุ์จะใช้การเพาะเมล็ด
การนำไปใช้
คนจะนิยมปลูกเป็นไม้ประดับlสำหรับบ้านที่พอมีพื้นทีสวนแล้วอาศัยกลิ่นหอมอ่อนๆ
ที่ลอยมากับลม หรือบางคนก็ปลูกริมรั้ว ในต่างประเทศจะนิยมปลูกข้างทางเรียงเป็นทิวแถวไปตามแนวถนนค่ะ
ตอนออกดอกก็ดูสวยดี แต่พอถึงตอนดอกร่วงโรยนี่ซิ ร่วงเต็มพื้นเช่นเดียวกัน
โคนต้นจะกลายเป็นสีม่วงไปหมด
ต้องเก็บกวาดดอกที่ร่วงกันยกใหญ่เพราะถ้าปล่อยให้เน่าก็ไม่ค่อยไม่น่ามองเท่าไหร่
นอกจากนี้ ชาวอียิปต์โบราณยังใช้ไม้จากต้นศรีตรังเอาไปทำเปียโน
ส่วนน้ำที่คั้นได้จากดอกยังมีสรรพคุณทางการแพทย์
ช่วยยั้บยั้งการเติบโตของเชื้อโรคได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น